สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สูตรสมูทตี้ฟักทอง เป็นเมนูความอร่อยจากวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งเมนูคาวและหวาน นอกจากนั้น ฟักทองยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วย นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายเพราะฟักทองมีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น เบตาแคโรทีน (Beta-carotene) วิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี ช่วยบำรุงสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน เช่น บำรุงสุขภาพดวงตา ส่งเสริมและบำรุงสุขภาพหัวใจ บำรุงผิวพรรณ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของ ฟักทอง ฟักทองประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้ อาจช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ได้แก่ แอลฟา-แคโรทีน (Alpha-Carotene) เบตาแคโรทีน และเบต้า-คริปโตแซนทิน (Beta-Cryptoxanthin) สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ทำหน้าที่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ เสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง และลดการอักเสบของเซลล์ นอกจากนั้น การรับประทานฟักทองอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ อาจมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก ฟักทองมีไฟเบอร์สูง  แคลอรีต่ำ และไขมันน้อย การรับประทานฟักทองสุกหนึ่งถ้วย ประมาณ 245 กรัม จะได้ไฟเบอร์ประมาณ 3 กรัม หรือฟักทองกระป๋อง ประมาณ 7 กรัม จะได้ไฟเบอร์ในปริมาณเท่ากับขนมปังโฮลเกรน 2 […]

หากคุณเบื่อเค้กรูปแบบเดิม ๆ ที่เต็มไปด้วยครีมเทียมมากมาย ซึ่งเป็นตัวการสำคัญทำให้น้ำหนักคุณเพิ่มขึ้น วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำเค้กสูตรใหม่มาแนะนำให้ทุกคนลองทำรับประทานกัน นั่นก็คือ สูตรเค้กผลไม้รวมอบแห้ง ที่เรียกได้ว่าเป็นเค้กเพื่อสุขภาพ และอาจทำให้ร่างกายคุณนั้นพร้อมรับประโยชน์จากผลไม้ที่คุณชื่นชอบตามไปได้อีกด้วย สูตรเค้กผลไม้รวมอบแห้ง วัตถุดิบในการทำเค้กผลไม้รวมอบแห้ง ผลไม้อบแห้ง สำเร็จรูปที่คุณชื่นชอบ แป้งอเนกประสงค์ 180 กรัม เนยจืด อุณหภูมิห้อง 113 กรัม น้ำตาลทรายแดง 160 กรัม อัลมอนด์ฝาน หรือถั่วธัญพืชตามความชอบ 90 กรัม น้ำส้มคั้นสด 120 มิลลิลิตร ผงฟู ½ ช้อนชา อบเชยป่น 1 ช้อนชา ลูกจันทน์เทศบด ¼ ช้อนชา เกลือโคเชอร์ 1 ช้อนชา ไข่ไก่อุณหภูมิห้อง 5 ฟอง ผิวเลมอนขูด 1 ช้อนโต๊ะ ผิวส้มขูด 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำเค้กผลไม้รวมอบแห้ง นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ อบเชยป่น ลูกจันทน์เทศบดใส่ในภาชนะขนาดกลาง แล้วคลุกให้เข้ากัน จากนั้นให้พักทิ้งไว้สักครู่ นำเนยจืด และน้ำตาลทรายแดง ใส่อีกภาชนะแล้วใช้เครื่องตีแป้งไฟฟ้า หรือไม้พายตีส่วยผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ในขณะที่ตีเนย และน้ำตาลนั้น ควรค่อย ๆ นำไข่ไก่ใส่ทีละฟอง จนครบ 5 ฟอง […]

พุทราจีน (Jujube) ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีมานานหลายพันปีแล้ว และเป็นอีกหนึ่งในผลไม้อายุวัฒนะในความเชื่อของประเทศจีน ที่มีสรรพคุณทางยาสูงอีกด้วยนะ แต่จะให้รับประทานเป็นลูก ๆ ทุกวันก็อาจจะทำให้เบื่อได้ วันนี้ Hello คุณหมอ เอาใจสายรักสุขภาพ ด้วย สูตรน้ำพุทราจีน ที่รับรองได้เลยว่าใครได้ดื่มเป็นต้องติดใจ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย แต่จะมีวิธีทำอย่างไรนั้น ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ [embed-health-tool-bmi] พุทราจีน ผลไม้อายุวัฒนะ พุทราจีน เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตอนใต้ เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะมีขนาดเล็กพอดีคำ รับประทานง่าย และยังมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากผลไม้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการนอนหลับ ช่วยบรรเทาความเครียดและลดการอักเสบ ที่เกิดจากการทำลายอนุมูลอิสระในตับ สูตรน้ำพุทราจีน น้ำพุทราจีน มีส่วนผสมและวิธีการทำ ดังต่อไปนี้ ส่วนผสม น้ำ 3.8 ลิตร พุทราแห้ง 453 กรัม รากขิงสด 1 แท่ง (ไม่ปอกเปลือก) เปลือกอบเชย ลูกแพร์ 1 ลูก วิธีทำ นำน้ำเติมลงในหม้อ ฝานรากขิงเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว ใส่ลงหม้อ (อาจเพิ่มอบเชยหรือหั่นลูกแพร์บางๆ […]

ถึงจะไม่ค่อยได้ยินชื่อของเครื่องดื่มที่ทำจากสมุนไพรอย่าง หญ้าฝรั่น หรือ แซฟฟรอน มากเท่าไหร่นัก แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีวางขายอยู่มิใช่น้อย เนื่องด้วยสรรพคุณภายในตัวหญ้าฝรั่นค่อนข้างให้ประโยชน์อย่างมาก วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำขั้นตอนการทำของ สูตรชาหญ้าฝรั่น หรือ ชาแซฟฟรอน มาฝากให้ทุกคนได้ลองทำรับประทานเองง่าย ๆ ที่บ้าน เพื่อป็นการบำรุงสุขภาพจากภายในสู่ภายนอกไปพร้อม ๆ กันค่ะ ทำความรู้จักกับหญ้าฝรั่น หรือ แซฟฟรอน กันเถอะ หญ้าฝรั่น หรือ แซฟฟรอน (Saffron) เป็นดอกไม้ที่ค้นพบได้มากที่สุดในแถบตะวันออกกลาง และในทวีปยุโรปบางส่วน และนิยมปลูกกันมากที่สุดในอินเดีย กรีซ อิหร่าน ซึ่งหญ้าฝรั่นมักถูกมองว่าเป็นเครื่องเทศอีกชนิดที่ค่อนข้างมีราคาสูงเนื่องจากต้องทำการเก็บเกี่ยวเป็นจำนวนมาก เพื่อนำเอาส่วนของในเกสรดอกไม้ที่มีลักษณะเป็นสีแดงเรียวเล็กยื่นยาวออกมา และนำไปอบแห้งเป็นสมุนไพร นอกจากนี้หญ้าฝรั่นยังสามารถนำมาใช้ปรุงเป็นเครื่องดื่ม อาหาร และยังนำมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งในน้ำหอม หรือการย้อมสีผ้าได้อีกด้วย ประโยชน์ของหญ้าฝรั่น หรือ แซฟฟรอน แต่เดิมหญ้าฝรั่นถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อรักษาอาการทางสุขภาพมาแล้วเมื่อ 3,500 ปีก่อน จวบจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากหญ้าฝรั่นนั้น สามารถให้คุณประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มการทำงาน และพร้อมปกป้องสุขภาพ ให้คุณห่างไกลจากความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ ดังต่อไปนี้ ป้องกันโรคมะเร็ง หญ้าฝรั่นประกอบไปด้วยฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และ โครซิน (Crocin) ซึ่งมีผลการศึกษาหนึ่งในหลอดทดลองพบว่าโครซิน ในหญ้าฝรั่นสามารถช่วยยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติที่อาจเสี่ยงเกิดเป็นโรคมะเร็งได้ ที่สำคัญยังสารประกอบชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น […]

“เค้กดาร์กช็อกโกแลต” รสชาติหวานฉ่ำเข้มข้น น่าจะเป็นของหวานสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน แต่เค้กดาร์กช็อกโกแลตที่วางขายโดยทั่วไป มักจะมีแป้งสาลีเป็นส่วนประกอบ ทำให้คนที่มีปัญหาในการบริโภคกลูเตน (Gluten) เช่น ผู้ป่วยโรคเซลิแอค (Celiac disease) ต้องอดลิ้มลองรสชาติความอร่อยของเค้กดาร์กช็อกโกแลตไปโดยปริยาย วันนี้ Hello คุณหมอ สูตรเค้กดาร์กช็อกโกแลตกลูเตนฟรี มาฝาก แถมสูตรนี้ยังใช้น้ำตาลน้อยมาก ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องควบคุมน้ำตาลในเลือดด้วย สูตรเค้กดาร์กช็อกโกแลตกลูเตนฟรี ส่วนผสมสำหรับ เค้กดาร์กช็อกโกแลตกลูเตนฟรี (สำหรับ 2 ที่) เนย 2 ช้อนโต๊ะ ดาร์กช็อกโกแลตหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 42 กรัม ไข่ไก่เบอร์ 0 1 ฟอง น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา เกลือป่นเล็กน้อย อุปกรณ์ที่ต้องมี เตาอบ วิธีทำ เค้กดาร์กช็อกโกแลตกลูเตนฟรี วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศา ละลายเนยและดาร์กช็อกโกแลตในไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที ตีไข่กับดาร์กช็อกโกแลตที่ละลายแล้วให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำตาล กลิ่นวานิลลา และเกลือป่นเล็กน้อย คนต่อจนเข้ากันดี ทาน้ำมันหรือเนยเคลือบถ้วย หรือถาดอบขนม กันเค้กติดภาชนะ ใส่ส่วนผสมที่คนจนเข้ากันดีแล้วลงในภาชนะ จากนั้นอบประมาณ 12-15 นาที จัดใส่จาน เสิร์ฟตอนเค้กยังอุ่น เค้กดาร์กช็อกโกแลตกลูเตนฟรี อร่อยแบบดีต่อสุขภาพ เค้กสูตรนี้ใช้ดาร์กช็อกโกแลตที่มีสารอาหารมากมาย เช่น ไฟเบอร์ เหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง แมงกานีส โพแทสเซียม (Potassium) […]

หลายคนชอบรับประทานอาหารที่ทำจากมันฝรั่ง เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ซุปไก่มันฝรั่ง มันบดทอด มันฝรั่งอบชีส แต่ยังมีอีกหนึ่งเมนูจากมันฝรั่งที่เราอยากให้คุณได้ลองทำรับประทานเองที่บ้านดู นั่นก็คือ เมนูสลัดมันฝรั่ง ที่นอกจากจะทำง่ายมากแถมยังดีต่อสุขภาพด้วย เพราะมีผักนานาชนิดเป็นส่วนผสม ว่าแต่ สูตรสลัดมันฝรั่ง ที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากกันในวันนี้จะต้องใช้ส่วนผสม และมีวิธีทำอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลย สูตรสลัดมันฝรั่ง ส่วนผสมสำหรับ สลัดมันฝรั่ง (สำหรับ 6 ที่) มันฝรั่ง 1 กิโลกรัม ไข่ไก่เบอร์ 0 2 ฟอง น้ำเลมอน หรือน้ำมะนาวคั้นสด 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ เซเลอรี่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ⅓ ถ้วย หัวแรดิชเฉือนบาง ๆ 1 ถ้วย ผักชีลาวฝรั่งซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอยละเอียด ⅓ ถ้วย มายองเนส ¼ ถ้วย พริกไทยดำป่น ½ ช้อนชา เกลือป่น ½ ช้อนชา วิธีทำ สลัดมันฝรั่ง ต้มมันฝรั่งและไข่ให้สุกด้วยไฟแรง จากนั้นปรับไฟให้อ่อนลง แล้วต้มต่อ พอครบ 12 นาทีให้เอาไข่ออกจากหม้อ แล้วแช่น้ำเย็นไว้ก่อน ต้มมันฝรั่งต่ออีกประมาณ 25-30 นาที หรือจนกว่ามันฝรั่งจะนิ่ม จากนั้นนำออกจากหม้อ ปิดไฟ ปอกเปลือก แล้วหั่นมันฝรั่งเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ ขนาดประมาณ ¾ นิ้ว ใส่มันฝรั่งลงในหม้อ เติมน้ำเลมอนหรือน้ำมะนาวคั้นสด […]

เทมเป้ เป็นอาหารอีกประเภทที่ค่อนข้างให้ประโยชน์แก่ร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทมเป้มักทำมาจากธัญพืชอย่างถั่วเหลืองเสียส่วนใหญ่ และยังเป็นอาหารที่สามารถรับประทานคู่กับอาหารหลากหลายเมนูได้อีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำ สูตรเทมเป้อบซอสถั่วเหลือง มาฝากสำหรับสายสุขภาพ และผู้ที่เริ่มต้นอยากปรับเปลี่ยนหันมาทานอาหารสุขภาพ ให้ได้ลองทำง่าย ๆ ไปพร้อม ๆ กันค่ะ สูตรเทมเป้อบซอสถั่วเหลือง วัตถุดิบในการทำ เทมเป้อบซอสถั่วเหลือง ถั่วเหลืองแห้ง 2 ถ้วย น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ เชื้อผง Tempeh Starter สำเร็จรูป โดยมีส่วนประกอบของ Rhizopus Oligosporus ซอสถั่วเหลือง 3 ช้อนโต๊ะ น้ำเชื่อมเมเปิ้ล 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวสด 1 ช้อนโต๊ะ ขิงขูดสด ½ ช้อนชา ซอสพริกผสมกระเทียม 2 ช้อนชา เนยถั่ว 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ เทมเป้อบซอสถั่วเหลือง ซึ่งก่อนการทำนั้นคุณควรมีเทมเป้สำเร็จรูปอย่างน้อยติดตู้เย็นเอาไว้ เพื่อประหยัดเวลาในการทำได้มากขึ้น เนื่องจากถั่วเหลืองที่นำมาทำเป็นเทมเป้จำเป็นต้องได้รับการแช่น้ำทิ้งเอาไว้ค้างคืน หรืออย่างน้อย 12 ชั่วโมงด้วยกัน อีกทั้งยังต้องทำการหมักทิ้งไว้อีกประมาณ 1 วัน จึงจะออกมาเป็นเทมเป้สำเร็จรูป ตามขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนการเตรียมเทมเป้ นำถั่วที่ผ่านการแช่น้ำเป็นเวลา 12 ชั่วโมง มาคัดแยก เพื่อนำเปลือกรอบนอกถั่วเหลืองออก พร้อมทั้งแบ่งครึ่งให้แยกจากกัน นำถั่วเหลืองที่ทำการนำเปลือกรอบนอกออกหมดใส่ลงในหม้อต้ม […]

บทความนี้ Hello คุณหมอ นำ สูตรเงาะลอยแก้ว มาให้ทุกคนได้ลองทำกันดูค่ะ เป็นเมนูจากผลไม้ไทยที่ช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากจะมีรสชาติที่หวานนุ่ม เย็นฉ่ำ เงาะซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทำเงาะลอยแก้วยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น บำรุงกระดูก ลดความเสี่ยงการเป็นนิ่ว เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นต้น เอาล่ะ! เรามาดูส่วนผสมและวิธีทำไปพร้อมกันเลย ทำความรู้จักเมนูเงาะลอยแก้ว เงาะลอยแก้ว (Rambutan in Syrup) เป็นอีกหนึ่งเมนูคลายร้อนยอดนิยม  เพราะมีรสชาติที่หวานเย็นฉ่ำ ทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้รับประทาน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เมนูเงาะลอยแก้วเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนทุกเพศทุกวัย นอกจากรสชาติจะอร่อยแล้ว เงาะซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของเมนู ยังอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินและแร่ธาตุซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย เช่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันมะเร็ง ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน เป็นต้น สูตรเงาะลอยแก้ว ส่วนผสม สำหรับ สูตรเงาะลอยแก้ว ที่เรานำมาฝากกัน มีส่วนผสมและวิธีทำดังต่อไปนี้ เงาะ 2 กิโลกรัม (ปอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว) เกลือ ¼ ช้อนชา น้ำตาลทราย 500 กรัม น้ำ 5 ถ้วย น้ำแข็งเกล็ด  วิธีทำ นำน้ำเทใส่กระทะแล้วตั้งไฟ ใส่น้ำตาลและเกลือลงไปคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย และปิดไฟ นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง 1 รอบ เมื่อต้องการรับประทาน ให้ตักเงาะใส่ถ้วยและตักน้ำเชื่อมที่ทำไว้เทใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็งลงไปเล็กน้อย พร้อมรับประทานได้เลยค่ะ 5 คุณประโยชน์จากเงาะ เงาะอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ […]

คริสต์มาสพุดดิ้ง เป็นอีกหนึ่งเมนูในวันเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งในวันนี้หลาย ๆ ครอบครัวก็มักจะเตรียมอาหารทั้งคาวและหวานไว้อย่างครบครัน ซึ่งอาหารแต่ละอย่างก็มักจะเต็มไปด้วยแคลอรี่ที่มหาศาล วันนี้ Hello คุณหมอ มี สูตรคริสต์มาสพุดดิ้งไขมันต่ำ เมนูของหวานประจำวันคริสต์มาสแต่มาในรูปแบบไขมันต่ำ รักสุขภาพ ใครพร้อมจนสูตรแล้วตามไปอ่านกันเลยค่ะ สูตรคริสต์มาสพุดดิ้งไขมันต่ำ (Christmas Pudding) ส่วนผสมเมนู คริสต์มาสพุดดิ้ง ไขมันต่ำ ส่วนผสม ปริมาณ ลูกเกด 265 กรัม เชอร์รี่ 75 กรัม แป้งอเนกประสงค์ 75 กรัม เครื่องเทศ (Mixed spice) 1 ช้อนชา อบเชยป่น 1/2 ช้อนชา ถั่วต่าง ๆ น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม น้ำเกรวี่ 2 ช้อนชา เปลือกมะนาวขูด  1/2 ลูก เปลือกส้มขูด 1 ลูก แอปเปิ้ลขูด 115 กรัม แครอทขูด 115 กรัม เหล้ารัม 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ นมพร่องมันเนย 4 ช้อนโต๊ะ ไข่ 2 ฟอง น้ำเชื่อมน้ำตาลอ้อย 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผสมวัตถุดิบทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยแยกเป็นวัตถุดิบแบบแห้งและวัตถุดิบแบบเปียก น้ำส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นตอกไข่ลงไป ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแม่พิมพ์ ห่อด้วยฟอยด์ เพื่อนำไปนึ่ง แต่สำหรับใครที่จะใช้วิธีอบไม่จำเป็นต้องห่อฟอยด์ เมื่อเทส่วนผสมทั้งหมดลงในแม่พิมพ์ ห่อฟอยด์เรียบร้อย แล้วนำไปนึ่งนาน 3 ชั่วโมง ที่สำคัญต้องปิดฝาให้สนิท แต่สำหรับใครที่ใช้วิธีอบให้นำจานมาครอบไว้ด้านบน และตั้งไฟสูงสุดอบนาน 5 นาที นำออกมาพักไว้ 5 นาทีหลังจากนั้นอบต่ออีก […]

ไข่คน เป็นเมนูง่าย ๆ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมายของไข่ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ลูทีน (Lutein) แคลเซียม (Calcium) รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และยังดีต่อการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ทางสุขภาพของ ไข่ ที่ควรรู้ ไข่เป็นหนึ่งในอาหารที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน และค่อนข้างให้คุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายอย่างมาก เพราะเนื่องจากไข่ประกอบไปด้วยสารอาหารหลากชนิดไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน ลูทีน แคลเซียม เป็นต้น ดังนั้น เมื่อรับประทานเข้าไป ก็อาจทำให้ได้รับประโยชน์ในการช่วยปรับปรุงสุขภาพ ดังต่อไปนี้ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากไข่มีโคลีน (Choline) อยู่ภายในที่มีบทบาทสำคัญในการลดสารโฮโมซิสทีน หรือโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอ วิตามินบี12 และซีลีเนียม (Selenium) อาจเป็นสารอาหารสำคัญอีกอย่างที่คอยช่วยเสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกันให้มีความแข็งแรง พร้อมช่วยขจัดสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาในร่างกายได้ทุกเมื่อ บำรุงสายตา เป็นที่ทราบกันดีว่าลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) สามารถช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาได้ ซึ่งในไข่ที่รับประทานในปัจจุบันนี้ก็ล้วนประกอบไปด้วยสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้เช่นเดียวกัน จึงอาจทำให้ผู้บริโภคไข่บางคนอย่างเป็นประจำนั้นได้รับลูทีน และซีแซนทีนเข้าไปเพื่อช่วยส่งเสริมด้านการมองเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟื้นฟูผิว ด้วยแร่ธาตุ และวิตามินบางชนิดในไข่ อาจมีส่วนช่วยในการป้องกันการสลายตัวของเนื้อเยื่อในร่างกาย […]