สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมของไทยมาอย่างเนิ่นนาน Hello คุณหมอ จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก มาให้ทุกท่านแล้ว ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันสะเดา กับคุณประโยชน์มากมาย แห่งการบำรุงผิวพรรณ

ส่วนใหญ่แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพร มักให้ผลดีมากกว่าการใช้สารเคมี รวมไปถึง น้ำมันสะเดา นี้ด้วย เพราะน้ำมันสะเดาเป็นสิ่งที่ถูกสกัดจากพืชโดยตรงและผ่านกระบวนการกรอง ฆ่าเชื้อ แต่น้ำมันชนิดนี้จะมีประโยชน์ และวิธีใช้อย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากทุกคนในวันนี้กันได้เลยค่ะ ที่มาของ น้ำมันสะเดา แต่เดิมสะเดานิยมปลูกในประเทศเขตร้อน โดยผู้คนส่วนใหญ่ใช้เป็นสารขับไล่แมลง และศัตรูพืชทั่วไป ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาปรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสะเดาให้เข้ากับยุคสมัยเรื่อย ๆ เช่น แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง แชมพูกำจัดรังแค น้ำยาบ้วนปาก อาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม รวมไปถึงการนำเมล็ดจากต้นสะเดามาสกัดเป็นน้ำมันสะเดา เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิว น้ำมันสะเดา ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เนื่องจากน้ำมันสะเดามีส่วนผสมมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ผิว ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลิโมนอยด์ (Limonoids) กรดไขมัน (EFA) ทำให้คุณนั้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ดังนี้ รักษากลาก การเกิดสิว ลดรอยแผลเป็น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รักษาผิวกร้านแห้ง และลดเลือนริ้วรอย โรคสะเก็ดเงิน ปัจจุบันมีงานศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับการใช้น้ำมันสะเดาบำรุงผิว โดยงานศึกษาวิจัยบางชิ้นระบุว่า น้ำมันสะเดาอาจมีส่วนช่วยในการชะลอริ้วรอย และรักษาสิวได้อย่างเห็นผล แต่จากการทดลองในสัตว์ เมื่อปี 2014 พบว่า น้ำมันสะเดาอาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านการสร้างคอลลาเจน และกำจัดไฝ หูด […]

หมวดหมู่ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เพิ่มเติม

สำรวจ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ดอกจันทน์ (Mace)

การใช้ประโยชน์ ดอกจันทน์ดอกจันทน์ ใช้ทำอะไร ดอกจันทน์ เรียกอีกชื่อได้ว่า จันทน์เทศ (Nutmeg) เป็นผลิตผลจากต้นจันทน์เทศ (Myristica fragrans) มีเปลือกภายนอกแข็งสีเหลืองนวลที่ห่อหุ้มเมล็ดจันทน์เทศสีแดงส้ม ภายในนั้นยังมีเยื้อหุ้ม หรือรกหุ้มลักษณะคล้ายกับตาข่ายกำลังปกคลุมอีกชั้น ส่วนใหญ่รับประทานดอกจันทน์เพื่อรักษาอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน อาการปวดท้อง มีแก๊สในลำไส้ และยังใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โรคไต เพิ่มการไหลเวียนของประจำเดือน อาจทำให้แท้งบุตร และอาการหลอนประสาท การใช้ดอกจันทน์บนผิวหนังยังสามารถรักษาอาการปวด โดยเฉพาะอาการปวดข้อของโรครูมาติก (rheumatism) สำหรับการทำเป็นอาหารนั้นนิยมใช้ผลลูกจันทน์ และดอกจันทน์เป็นเครื่องเทศ และเครื่องปรุง หรือทำเป็นสมุนไพรแปรรูปขบเคี้ยวได้ การทำงานของดอกจันทน์เป็นอย่างไรมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของดอกจันทน์ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่า ดอกจันทน์สามารถฆ่าเชื้อรา แบคทีเรีย และยังมีสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางจึงควรใช้อย่างระมัดระวัง ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ดอกจันทน์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะ ดังต่อไปนี้ ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรจะได้รับยาหรือสมุนไพรบำรุง ที่จัดจำหน่ายโดยแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ มีอาการแพ้สารที่มีส่วนประกอบของดอกจันทน์หรือยาและสมุนไพรชนิดอื่น มีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่นแพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ดอกจันทน์มีความปลอดภัยแค่ไหนสำหรับสตรีตั้งครรภ์ และการให้นมบุตร ดอกจันทน์อาจอาจทำให้แท้งบุตรหรือทำให้เด็กพิการแต่กำเนิดได้ สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ในทางทฤษฎีนั้นการรับประทานดอกจันทน์มากเกินไปสามารถทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันแย่ลงได้สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ดอกจันทน์มีอะไรบ้าง ดอกจันทน์มีสารไมริสติซิน (myristicin) ซึ่งมีผลข้างเคียงด้านทางจิตใจ การใช้จันทน์เทศในปริมาณมากเกินร่างกายรับไหวอาจมีอาการคลื่นไส้ ปากแห้ง หัวใจเต้นผิดปกติ กระสับกระส่าย และมองเห็นภาพหลอน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียงดังกล่าว อาจเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ทั้งรุนแรงและไม่รุนแรงตามมาได้ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

บัว (Lotus)

บัว (Lotus) เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง มักพบในแหล่งน้ำทั่วไป เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง คนเรานิยมนำดอก เมล็ด ใบ และรากของบัวมาทำเป็นยาสมุนไพรตั้งแต่ยุคโบราณ ข้อบ่งใช้บัว ใช้สำหรับ บัว (Lotus) เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง มักพบในแหล่งน้ำทั่วไป เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง คนเรานิยมนำดอก เมล็ด ใบ และรากของบัวมาทำเป็นยาสมุนไพรตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังนิยมนำมาประกอบอาหารต่าง ๆ และเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ในพุทธศาสนาอีกด้วย คนนิยมนำบัวมาใช้เพื่อห้ามเลือด บรรเทาอาการไอ ลดไข้ และช่วยรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับตับ กระเพาะอาหาร และสภาวะอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดที่จะพิสูจน์ถึงสรรพคุณทางยาของบัว การทำงานของบัว ยังไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของบัวมากเพียงพอ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อควรระวังและคำเตือนข้อควรรู้ก่อนใช้บัว โปรดปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหาก คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณมีความตั้งใจหรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น หากคุณแพ้สารใด ๆ ในบัว หรือยาอื่น หรือสมุนไพรอื่น ๆ หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่น […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

หญ้าหางม้า (Horsetail)

หญ้าหางม้า (Horsetail) มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และต้านการอักเสบ มีสารเคมีออกฤทธิ์คล้ายยาขับปัสสาวะ และ ช่วยเพิ่มปริมาณของปัสสาวะ การใช้ประโยชน์หญ้าหางม้าหญ้าหางม้าใช้ทำอะไร หญ้าหางม้า(Horsetail) ใช้เพื่อรักษาสภาวะดังต่อไปนี้ บวมน้ำ (Edema) นิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้ (กลั้นไม่อยู่) ภาวะปั่นป่วนทั้วไปของไตและกระเพาะปัสสาวะ หัวล้าน วัณโรค ดีซ่าน (Jaundice) ตับอักเสบ (Hepatitis) เล็บเปราะ โรคข้อต่อ โรคเกาต์ (Gout) โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) โรคกระดูกพรุน (osteoporosis) แผลจากความเย็นจัด (Frostbite) น้ำหนักลด ประจำเดือนมามาก อาการเลือดออกที่ไม่สามารถควบคุมได้ (ตกเลือด) ที่บริเวณจมูก ปอด หรือกระเพาะอาหาร ทาหญ้าหางม้าลงบนผิวหนังโดยตรงเพื่อรักษาบาดแผลและแผลไหม้ หญ้าหางม้าอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นได้อีกด้วย โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม การทำงานของหญ้าหางม้าเป็นอย่างไรสารเคมีของหญ้าหางม้าอาจจะมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ พืชที่มีสายพันธุ์เกี่ยวข้องกับหญ้าหางม้านั้นอาจจะมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์คล้ายยาขับปัสสาวะและเพิ่มปริมาณของปัสสาวะ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าหญ้าหางม้านั้นให้ผลเดียวกันหรือไม่ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้หญ้าหางม้า โปรดปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหาก คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณมีความตั้งใจหรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เองโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ หากคุณแพ้สารใดๆ ในหญ้าหางม้า หรือยาอื่น หรือสมุนไพรอื่นๆ หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ประเภทอื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีย้อม สารกันบูด หรือสัตว์ กฏข้อบังคับในการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรนั้นเข้มงวดน้อยกว่ากฏข้อบังคับในการใช้ยา ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาความปลอดภัยของอาหารเสริมนี้ ประโยชน์ในการใช้หญ้าหางม้าจะต้องมากกว่าความเสี่ยงก่อนใช้ยา โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หญ้าหางม้านั้นมีความปลอดภัยแค่ไหนความปลอดภัยของหญ้าหางม้า เด็ก เนื่องจากหญ้าหางม้านั้นมีร่องรอยของสารนิโคติน จึงไม่แนะนำให้เด็กเล็กใช้สมุนไพรนี้ การตั้งครรภ์และการให้นมบุตร ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้หญ้าหางม้าขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร: ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้หญ้าหางม้าขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) ประโยชน์ และข้อควรระวัง

โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) เป็นเกลือที่แตกตัวเป็นโซเดียม และไบคาร์บอเนตภายในน้ำ การแตกตัวนี้จะทำให้เกิดสารละลายด่าง (solution alkaline) ซึ่งสามารถแก้ความเป็นกรดได้ [embed-health-tool-bmr] ประโยชน์ของ โซเดียมไบคาร์บอเนต โซเดียมไบคาร์บอเนต ใช้สำหรับทำอะไร โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) เป็นเกลือที่แตกตัวเป็นโซเดียม และไบคาร์บอเนตภายในน้ำ การแตกตัวนี้จะทำให้เกิดสารละลายด่าง (solution alkaline) ซึ่งสามารถแก้ความเป็นกรดได้ เพราะเหตุนี้โซเดียมไบคาร์บอเนตจึงมักจะใช้เพื่อรักษาสภาวะที่เกิดจากการมีกรดภายในร่างกายมากเกินไป เช่น อาการแสบร้อนกลางอก (heartburn) จากกรดไหลย้อน การรับประทานโซเดียมไบคาร์บอเนต สามารถช่วยรักษาและบรรเทาอาการ และภาวะต่างๆ ได้แก่ ทำความสะอาดลำไส้ รักษาการทำงานของไต บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย รักษาภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และรักษานิ่วในทางเดินปัสสาวะ สามารถทาโซเดียมไบคาร์บอเนตบริเวณผิวหนังเพื่อรักษาแผลไหม้จากสารเคมี ฟันผุ กำจัดขี้หู รักษาผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) แมลงกัดต่อย การอักเสบบริเวณเยื่อบุทางเดินอาหาร พิษจากต้นพอยซั่นโอ๊ค (poison oak) และต้นพอยซั่นไอวี (poison ivy) อาการคันที่ผิวหนัง (pruritus) และอาการคันและเป็นสะเก็ดที่ผิวหนังอย่างโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาติจากแพทย์เท่านั้นเนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อผิวหนังได้ ฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนตเข้าทางหลอดเลือดดำเพื่อกู้ชีพหัวใจ (heart resuscitation) การทำงานของไตไม่ดี โคเคนเป็นพิษ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

โยเกิร์ต (Yogurt)

ข้อบ่งใช้โยเกิร์ตใช้สำหรับ โยเกิร์ต (Yogurt) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ทำได้โดยการหมักนมด้วยเชื้อแบคทีเรียเฉพาะสายพันธุ์ต่างๆ หนึ่งหรือหลายชนิดด้วยกัน เช่นแลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus acidophilus) แลคโตบาซิลลัส      แรมโนซัส (Lactobacillus rhamnosus) แลคโตบาซิลลัส บัลการิคัส (Lactobacillus bulgaricus) เอ็นเทอโรคอกคัส เฟเซียม (Enterococcus faecium) สเตรปโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส (Streptococcus thermophilus) และอื่นๆ โยเกิร์ตใช้รักษาอาการต่างๆ ได้แก่ อาการท้องร่วงในเด็ก อาการท้องร่วงที่เกี่ยวข้องกับยาปฏิชีวนะ อาการท้องร่วงในทารกและเด็กที่ขาดสารอาหาร อาการแพ้น้ำตาลแล็กโทส (Lactose intolerance) ใช้บริโภคแทนนม รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร อย่างเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori) เมื่อใช้ร่วมกับยาอื่น คอเลสเตอรอลสูง โรคหอบหืด ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis) เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอด เพื่อป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร (peptic ulcers) เพื่อป้องกันแดดเผา การทำงานของโยเกิร์ต ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับการทำงานของโยเกิร์ต โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่เป็นที่ทราบกันว่าโยเกิร์ตนั้นมีเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะช่วยฟื้นฟูเชื้อแบคทีเรียตามปกติที่อยู่ในทางเดินอาหารและช่องคลอด ทำให้ช่วยรักษาอาหารท้องร่วงและการติดเชื้อที่ช่องคลอด ข้อควรระวังและคำเตือนข้อควรรู้ก่อนใช้โยเกิร์ต โปรดปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหาก คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เองโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ หากคุณแพ้สารใดๆ ในโยเกิร์ต หรือยาอื่น หรือสมุนไพรอื่นๆ หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ประเภทใดๆ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ไทม์ (Thyme)

ไทม์ (Thyme) เป็นสมุนไพร โดยส่วนที่เป็นดอก ใบ และน้ำมันนั้นจะนำมาใช้เป็นยา ในบางครั้งไทม์อาจจะใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพื่อใช้รักษาภาวะและโรคต่างๆ ข้อบ่งใช้ไทม์ ใช้สำหรับ ไทม์ (Thyme) เป็นสมุนไพร โดยส่วนที่เป็นดอก ใบ และน้ำมันนั้นจะนำมาใช้เป็นยา ในบางครั้ง ไทม์ อาจจะใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ การรับประทานไทม์สามารถรักษาสภาวะทางการแพทย์ต่อไปนี้ ภาวะหลอดลมอักเสบ (bronchitis) โรคไอกรน (whooping cough) เจ็บคอ อาการโคลิก (colic) โรคข้ออักเสบ ท้องไส้ปั่นป่วน ปวดท้อง โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ท้องร่วง ปัสสาวะรดที่นอน ความผิดปกติของการเคลื่อนไหวในเด็ก อย่าง โรคดีสแพร็กเซีย (dyspraxia) ท้องอืด โรคผิวหนัง นอกจากนี้ ยังใช้ไทม์เพื่อเพิ่มการไหลของปัสสาวะ หรือเป็นยาขับปัสสาวะ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในปัสสาวะ และเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร บางคนอาจทาไทม์ลงบนผิวหนังโดยตรงเพื่อรักษาอาการเสียงแหบ (กล่องเสียงอักเสบ) ต่อมทอนซิลอักเสบ (tonsillitis) แผลในปาก และมีกลิ่นปาก น้ำมันไทม์นั้นถูกนำใช้เพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำยาบ้วนปากและน้ำมันทาแก้ปวดเมื่อย และยังใช้ทาบนหนังศีรษะเพื่อรักษาอาการศีรษะล้านและทาหูเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราด้วย ไทมอล (Thymol) หนึ่งในสารเคมีที่อยู่ในไทม์ ใช้ร่วมกับสารเคมีอื่น เช่น คลอร์เฮกซิดีน (chlorhexidine) เพื่อสารเคลือบฟันเพื่อป้องกันฟันผุ การทำงานของไทม์ ยังไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของไทม์ที่เพียงพอ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร อย่างไรก็ตาม มีงานศึกษาวิจัยบางส่วนที่ชี้ให้เห็นว่าไทม์นั้นมีสารเคมีที่อาจช่วยรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา และอาการระคายเคืองระดับเบา ไทม์ยังใช้เพื่อบรรเทาอาการกล้ามเนื้อเรียบกระตุก เช่น อาการไอ ข้อควรระวังและคำเตือนข้อควรรู้ก่อนใช้ไทม์ ปรึกษาแพทย์หรึอเภสัชกร หาก คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น คุณได้รับยาชนิดอื่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

คาโมมายล์ (Chamomile)

คาโมมายล์ (Chamomile) เป็นพืชที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย และนิยมนำมาใช้ในการรักษาโรคกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ข้อบ่งใช้คาโมมายล์ ใช้สำหรับ คาโมมายล์ (Chamomile) เป็นพืชที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย และนิยมนำมาใช้ในการรักษาโรคกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เช่น ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยากล่อมประสาทอ่อนๆ งานวิจัยบางชิ้นระบุว่า การใช้คาโมมายล์ร่วมกับพืชอื่นๆ อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อาจยังระบุไม่ได้แน่ชัดว่า ประโยชน์ที่ได้รับนั้นมาจากพืชชนิดใดกันแน่ หรือพืชชนิดใดให้ประโยชน์ด้านใดมากกว่ากัน จากการวิจัย ผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของคาโมมายล์และยาสมุนไพรอื่นๆ สามารถบรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วน แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ และอาเจียนได้ ส่วนอีกผลิตภัณฑ์ที่มีคาโมมายล์เป็นส่วนประกอบ อาจช่วยบรรเทาอาการโคลิกในเด็ก (Colicky Babies) ได้ การบ้วนปากด้วยชาคาโมมายล์อาจช่วยบรรเทาอาการแผลในปากที่เกิดจากการรักษาโรคมะเร็ง นอกจากนี้ นักวิจัยบางรายยังชี้ว่า คาโมมายล์สามารถช่วยรักษาภาวะและโรคอื่นๆ ได้ด้วย เช่น อาการท้องร่วงในเด็ก โรคริดสีดวงทวาร โรควิตกกังวล และอาการนอนไม่หลับ เมื่อใช้คาโมมายล์กับผิวอาจช่วยรักษาอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและช่วยฟื้นฟูบาดแผล นักวิจัยบางรายมีหลักฐานว่า คาโมมายล์อาจมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาครีมไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ที่ใช้รักษาโรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) การทำงานของคาโมมายล์ ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับการทำงานของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำจากคาโมมายล์ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบางฉบับที่แสดงให้เห็นว่าหนึ่งในส่วนประกอบของสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่พบในคาโมมายล์ อย่างอะพิจีนีน (Apigenin) มีคุณสมบัติในการกล่อมประสาท โดยมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า ฟลาโวนอยด์สองชนิดที่พบในคาโมมายล์ ได้แก่ กลูโคไซด์ (Glucoside) […]


การแพทย์ทางเลือก

การฝังเข็ม ช่วยรักษาอาการปวดและเสริมสร้างสุขภาพได้จริงหรือ

การฝังเข็ม เป็นการรักษาแผนโบราณของจีนที่ใช้มานานหลายศตวรรษ โดยมีความเชื่อว่า การรักษารูปแบบนี้ส่งเสริมการทำงานของร่างกายโดยรวม และกระตุ้นกระบวนการรักษาและเยียวยาร่างกายตามธรรมชาติ โดยการกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่เรียกว่า จุดฝังเข็ม การฝังเข็มถูกเผยแพร่ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และกลายเป็นที่ยอมรับในการแพทย์สมัยใหม่ โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่า การรักษานี้สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และยังเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้อีกด้วย บทความนี้ของ Hello คุณหมอจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการฝังเข็มกับประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย การฝังเข็ม มีข้อดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างไรบ้าง การฝังเข็ม ช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ผู้ทำการผังเข็มจะใช้เข็มขนาดเล็กทิ่มลงไปในผิวหนังตรงจุดเฉพาะของร่างกาย โดยการรักษานี้ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บหากทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ตามหลักการของการฝังเข็ม เข็มที่ปักลงในไปแต่ละจุดฝังเข็มทั่วร่างกาย จะช่วยทำให้การถ่ายเทพลังงานในร่างกาย ที่เรียกว่า “พลังชี่” สมดุลขึ้น การฝังเข็มจึงมักถูกนำมาใช้เพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ เช่น ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดข้อ ปวดศีรษะเรื้อรัง การศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งเบอร์ลิน เมื่อปี 2549 ระบุว่า มีการยืนยันแล้วว่าการฝังเข็มสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลังเรื้อรังได้ดีกว่าการรักษารูปแบบอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การฝังเข็มอาจไม่ใช่วิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเกิดอาการปวด โดยนักวิทยาศาสตร์แนะนำว่า แต่ละคนมีปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดแตกต่างกัน และควรได้รับการรักษาตามรูปแบบที่เหมาะสม และการฝังเข็มอาจเป็นเพียงวิธีการหนึ่งเท่านั้น หากพิจารณาแล้วว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละบุคคล การฝังเข็มช่วยรักษาโรคนอนไม่หลับ จากความเห็นของการแพทย์ตะวันตก การฝังเข็มสามารถควบคุมฮอร์โมนต่าง ๆ และสารสื่อประสาท เช่น […]


การแพทย์ทางเลือก

สิ่งที่คุณควรต้องรู้ ก่อนฝังเข็มรักษาอาการปวดแบบ "ไซอาติก้า"

การฝังเข็มนั้นเป็นที่รู้จักกันในฐานะศาสตร์การรักษาอันเก่าแก่และถูกนำมาใช้ในระบบการรักษาในการแพทย์แผนปัจจุบันมานานหลายปี ในทางการแพทย์สมัยใหม่นั้น การฝังเข็มนำมาใช้เพื่อรักษาอาการปวดไซอาติก้า ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นบริเวณส่วนรากของระบบประสาท เป็นสาเหตุให้มีอาการปวดร้าวลงที่ขา ไซอาติก้า คืออะไร และการฝังเข็มจะรักษาอาการนี้ได้อย่างไร ลองอ่านบทความนี้ อาการปวดเส้นประสาทแบบ ไซอาติก้า คืออะไร  อาการปวดไซอาติก้า (Sciatica) เป็นอาการปวดสะโพก ร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง อาการปวดขาอาจลามไปจนถึงเท้า และอาจมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของอาการปวดสะโพกที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณสะโพก หรือเอวมักพบในผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง อาการปวดสะโพกจะแตกต่างจากรูปแบบอื่นๆ ของอาการปวดหลัง เพราะส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดเริ่มขึ้นที่ด้านหลังสะโพก และร้าวลงไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง จะรู้สึกเสียวแปลบ และรู้สึกร้อนบริเวณที่ปวด โดยอาจปวดตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงปวดขั้นรุนแรง บางรายอาจมีอาการขาชาร่วมด้วย อาการปวดเส้นประสาทแบบไซอาติก้า มักพบว่าเกิดจากปัญหาของหมอนรองกระดูกสันหลัง เช่น มีหมอนรองกระดูกสันหลังแตกไปกดทับรากประสาทที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว หรือสะโพก การฝังเข็มเพื่อรักษาอาการปวดเส้นประสาทแบบไซอาติก้า งานวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นประสิทธิผลในการรักษาอาการปวดเส้นประสาทแบบไซอาติก้าด้วยการฝังเข็ม โดยระบุว่าการฝังเข็มนั้นช่วยกระตุ้นส่วนรากเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณหลังและสามารถบรรเทาอาการปวดร้าวลงขาได้ การฝังเข็มนั้นยังสามารถช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ตลอดจนลดอาการชาบริเวณขาและลดการอักเสบบริเวณที่เกิดอาการได้ด้วย ประสิทธิผลของการฝังเข็มนั้นจะเห็นผลยิ่งขึ้นได้ด้วยการรักษาควบคู่กับการใช้ยาบางชนิด เช่น ไอบูโพรเฟน หรือ เมโลซิแคม เลือกผู้เชี่ยวชาญในการรักษาอย่างไรดี เมื่อคุณตัดสินใจเลือกการฝังเข็มเพื่อรักษาอาการปวดเส้นประสาทแบบไซอาติก้า สิ่งสำคัญมากที่สุดคือคุณจะต้องพบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม เพราะความสำเร็จของการรักษานั้นขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษา ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำที่คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อหาแพทย์ผู้ให้การฝังเข็มที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ลองสอบถามแพทย์ผู้ทำการรักษาคุณเป็นอันดับแรก เพราะแพทย์ของคุณอาจมีรายชื่อของผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม และสามารถแนะนำรายชื่อแพทย์ที่เหมาะสมและสะดวกในการติดต่อ ลองค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาของผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม อ่านคุณสมบัติ ประสบการณ์และวุฒิการศึกษา โดยคุณสามารถหารายละเอียดทางอินเทอร์เน็ตหรืออาจสอบถามเพื่อน แพทย์ หรือคลินิกที่ให้การรักษา นัดหมายเพื่อเข้าไปพูดคุยกับแพทย์โดยตรง คุณสามารถสอบถามเกี่ยวกับการรักษาหรือขอคำแนะนำในการหาทางรักษาที่เหมาะสมร่วมกัน รวมถึงสอบถามโอกาสความสำเร็จในการรักษาและความเสี่ยงในขั้นตอนทำการรักษา ตรวจสอบค่าใช้จ่ายและความครอบคลุมของประกันเพื่อเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษา เพื่อออกแบบการรักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม แพทย์ผู้ทำการฝังเข็มจะสอบถามประวัติทางการแพทย์ อาการ และการใช้ชีวิตของคุณ เพราะฉะนั้นโปรดแจ้งอาการของคุณให้แพทย์ทราบโดยละเอียด ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยวิธีฝังเข็ม เช่นเดียวกับการรักษาทางการณ์แพทย์อื่นๆ การรักษาด้วยวิธีฝังเข็มนั้นก็ย่อมมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงซึ่งเกิดขึ้นได้ยากมาก ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ แจ้งให้ผู้ทำการรักษาด้วยการฝังเข็มทราบว่าคุณมีอาการของโรคเลือด เช่น […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

กาแฟ (Coffee)

สรรพคุณของ กาแฟ“กาแฟ” เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทย คุณสมบัติเด่นของกาแฟ คือมีสารคาเฟอีน (Caffeine) ที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจและกระตุ้นประสาทส่วนกลาง การ ดื่มกาแฟ จึงช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว นอนไม่หลับ ทำให้ร่างกายสดชื่น ขจัดความเซื่องซึมและอ่อนล้าได้ เราดื่ม “กาแฟ” เพื่ออะไร กาแฟช่วยเพิ่มความตื่นตัว อารมณ์ เพิ่มความอึด ในการกิจกรรมที่ต้องมีการใช้แรงหรือการออกกำลัง มีสรรพคุณช่วยทำให้หลอดลมขยายตัว ในอดีตกาแฟนั้นใช้ดื่มเพื่อรักษาอาการหอบหืด ปวดศีรษะ และไข้หวัด หรือล้างลำไส้เพื่อล้างพิษที่เกิดจากการใช้ฝิ่น นอกจากนี้ กาแฟยังถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อกระตุ้นความอยากอาหารและช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกาแฟจะช่วยให้เกิดการบีบหดตัวของกล้ามเนื้อทางเดินอาหารและกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต รวมถึงยังมีข้อมูลที่พบว่ากาแฟอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคพาร์กินสันและการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี โรคเบาหวานชนิดที่ 2 มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอดและมะเร็งเต้านม คนเราจึง ดื่มกาแฟ เพื่อผ่อนคลายจิตใจและความเหนื่อยล้าทางกาย และกระตุ้นให้ตื่นตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังดื่มกาแฟเพื่อรักษาอาการปวดศีรษะ อาการความดันต่ำ โรคอ้วน และโรคสมาธิสั้นอีกด้วยได้ด้วย “กาแฟ” ทำงานอย่างไร เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับกาแฟไม่มากพอหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่าคาเฟอีน สารก่อความขมที่พบในการ ดื่มกาแฟ นั้น ส่งผลอย่างมากต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย รวมถึงกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและเพิ่มพลังงานให้กับผู้บริโภค ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรทราบก่อนดื่ม “กาแฟ” ปริมาณกาแฟที่ได้รับในแต่ละวันนั้นอาจส่งผลต่ออารมณ์ และผลกระทบด้านอื่นๆ รวมถึงการนอนหลับของผู้ดื่มได้ ควรเก็บกาแฟในที่แห้งและเย็น ห่างไกลจากความร้อนและความชื้น อาการติดกาแฟนั้นโดยทั่วไปเกิดขึ้นหลังจากการ ดื่มกาแฟ มายาวนานเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกัน ข้อบังคับในการใช้กาแฟในฐานะสมุนไพรเสริมนั้นไม่เคร่งครัดเท่ากับการใช้ยาประเภทอื่น อย่างไรก็ดี […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม