โรคริดสีดวงในระดับไม่รุนแรงสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการดูแลตัวเองที่เหมาะสม เช่น เลือกกินอาหารที่มีใยอาหารสูงและช่วยในการขับถ่าย ออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้ริดสีดวงกำเริบหรือหายได้ช้า เช่น นั่งในท่าเดิมนานหลายชั่วโมง นั่งขับถ่ายนานเกินจำเป็น สูบบุหรี่ แต่หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการปวดบวม ระคายเคืองริดสีดวงยิ่งรุนแรง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคริดสีดวง
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคริดสีดวง อาจทำได้ดังนี้
- กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เช่น ลูกพรุน แอปเปิล ข้าวโพด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มันเทศ มันฝรั่ง กะหล่ำปลี มะระขี้นก มะเขือยาว เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยใยอาหารที่มีส่วนช่วยในการขับถ่าย
- ดื่มน้ำเปล่าและเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น น้ำส้มคั้น น้ำมะเขือเทศ อย่างน้อย 8-10 แก้ว/วัน อาจช่วยให้อุจจาระเคลื่อนตัวไปตามลำไส้ได้สะดวก และขับถ่ายได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงเบ่งเยอะจนทำให้ริดสีดวงแย่ลง
- หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเปลี่ยนเป็นแบบไม่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟดีแคฟ (Decaf Coffee) เพื่อลดปริมาณคาเฟอีนที่เข้าสู่ร่างกาย อาจช่วยไม่ให้เกิดอาการท้องผูกอและลดการระคายเคืองของริดสีดวงได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ เหล้า เพราะอาจทำให้ขับถ่ายลำบากขึ้น และริดสีดวงแย่ลงได้
- ควรเข้าห้องน้ำทันทีที่รู้สึกปวดอุจจาระ เพราะการอั้นอุจจาระจะทำให้ลำไส้ดูดน้ำจากอุจจาระกลับสู่ร่างกาย ส่งผลให้อุจจาระแห้งแข็งและเคลื่อนตัวออกได้ยาก จนทำให้อาการริดสีดวงแย่ลง
- ไม่เบ่งอุจจาระรุนแรงเกินไป เนื่องจากการเกร็งและกลั้นลมหายใจขณะพยายามถ่ายอุจจาระอาจเพิ่มแรงดันที่หลอดเลือดในทวารหนักส่วนล่างจนทำให้มีติ่งเนื้อยื่นออกมานอกทวารหนักและเสียดสีกับอุจจาระที่ออกมาจนเลือดออกได้
- นั่งแช่น้ำอุ่นครั้งละประมาณ 15-30 นาที วันละหลาย ๆ ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการบวมและระคายเคืองริดสีดวง
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ค่าดัชนีมวลกายที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ซึ่งอาจเพิ่มความดันบริเวณหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนัก และทำให้ริดสีดวงแย่ลง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย