backup og meta

หนังศีรษะแห้ง ลอก ใช้อะไรดี และควรดูแลหนังศีรษะอย่างไร

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงเกศอร ป้องอาณา · โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 24/04/2023

    หนังศีรษะแห้ง ลอก ใช้อะไรดี และควรดูแลหนังศีรษะอย่างไร

    ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผม อาจสงสัยว่า หนังศีรษะแห้ง ลอก ใช้อะไรดี โดยทั่วไป แนะนำให้ผู้ที่มีปัญหานี้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนประกอบของซิงค์ ไพริไธโอน กรดซาลิไซลิก คีโตโคนาโซล ซีลีเนียมซัลไฟด์ ที่ช่วยลดปริมาณเชื้อราบนหนังศีรษะ ลดการหลุดลอกของหนังศีรษะที่เกิดจากรังแค ร่วมกับการดูแลหนังศีรษะอย่างถูกวิธี เช่น สระผมด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงการเข้านอนโดยที่ผมผมยังเปียกอยู่

    หนังศีรษะแห้ง ลอก เกิดจากอะไร

    หนังศีรษะแห้ง ลอก อาจเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสูญเสียน้ำหรือความชุ่มชื้นมากเกินไป จนทำให้มีอาการแห้ง ลอก คัน นอกจากนี้ยังอาจเกิดหนังศีรษะบริเวณนั้นระคายเคืองจนลอกออกเป็นแผ่นหรือเป็นรังแค ซึ่งเกิดจากได้จากหลายปัจจัยดังต่อไปนี้

  • สระผมบ่อยเกินไป การสระผมทุกวันอาจชะล้างน้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะที่ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้น จนทำให้หนังศีรษะแห้งลอก ทั้งยังอาจทำให้เส้นผมเปราะและขาดได้ง่าย
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมบางชนิด เช่น แชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ สเปรย์เซตผม เจลใส่ผม น้ำยาย้อมผม อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองจนเกิดผื่นแพ้สัมผัส (Contact dermatitis) ที่ทำให้หนังศีรษะแห้งลอก แดง คัน เป็นรังแค
  • อากาศเปลี่ยนแปลง ในฤดูหนาวหรือช่วงที่อากาศแห้ง ความชื้นในอากาศลดลง จะส่งผลให้ผิวหนังทั่วร่างกายรวมไปถึงหนังศีรษะแห้ง นอกจากนี้ การใช้ไดร์เป่าผมหรือหนังศีรษะสัมผัสกับความร้อนโดยตรงยังอาจทำให้หนังศีรษะแห้งลอกได้
  • โรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) เป็นภาวะผิวหนังอักเสบที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การแพ้สัมผัส การระคายเคืองจนเกิดผื่นที่เป็นสะเก็ดขุย สามารถเกิดได้ทุกตำแหน่งบนร่างกาย
  • โรคสะเก็ดเงินบนศีรษะ (Scalp psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติจนทำให้สร้างเซลล์หนังศีรษะมากเกินไป ส่งผลให้หนังศีรษะมีขุยขึ้นเป็นปื้น ผิวตกสะเก็ด คันเป็นหย่อม ๆ และอาจพบที่บริเวณหน้าผาก คิ้ว ไรผม และใบหูด้วย
  • โรคกลากบนหนังศีรษะ (Tinea capitis) เป็นโรคติดเชื้อราบนหนังศีรษะที่เกิดจากเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโทไฟต์ (Dermatophyte) อาจทำให้หนังศีรษะอักเสบ มีสะเก็ดขึ้นเป็นหย่อม ๆ หนังศีรษะแห้งลอก และคันมาก นอกจากนี้ยังสามารถเจาะทะลุรากผมและเข้าไปในแกนผม ทำให้ผมเปราะขาดและหลุดร่วงได้ด้วย
  • โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) เป็นโรคต่อมไขมันอักเสบที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ยีสต์มาลาสซีเซีย (Malassezia) ความเครียด สภาพอากาศ ทำให้หนังศีรษะเป็นสะเก็ดสีขาวออกเหลือง ร่วมกับมีอาการคัน แดง ระคายเคือง
  • หนังศีรษะแห้ง ลอก ใช้อะไรดี

    ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เช่น แชมพู ครีมนวดผม ที่มีส่วนประกอบต่อไปนี้ อาจช่วยรักษาอาการหนังศีรษะแห้ง ลอก และอาการอื่น ๆ เช่น คัน ระคายเคือง เป็นรังแคได้ ทั้งนี้ ควรอ่านคำแนะนำในการใช้งานที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพราะบางผลิตภัณฑ์อาจแนะนำให้หมักทิ้งไว้หลายนาที และบางผลิตภัณฑ์อาจให้ล้างออกทันที

    • กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) เป็นสารเคมีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว กำจัดน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่สะสมอยู่บนหนังศีรษะ ทำให้สะเก็ดหลุดออกง่ายขึ้นขณะสระผม ช่วยบรรเทาสภาพหนังศีรษะที่แห้งและเป็นสะเก็ด ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เกิน 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
    • ซิงค์ ไพริไธโอน (Zinc pyrithione) ลดการสะสมของเชื้อราบนหนังศีรษะ ลดการหลุดลอกของหนังศีรษะที่เกิดจากรังแค บรรเทาอาการคัน และช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและความมันส่วนเกินออกจากรูขุมขน ควรใช้ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์จนกว่าปัญหาหนังศีรษะจะทุเลาลง จากนั้นใช้สัปดาห์ละครั้งเพื่อขจัดรังแค
    • คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) เป็นยาต้านเชื้อราที่ช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อราที่หนังศีรษะ ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ทำให้เกิดรังแค ควรใช้ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
    • ซีลีเนียมซัลไฟด์ (Selenium sulfide) เป็นสารออกฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ช่วยบรรเทาอาการคัน ระคายเคือง รอยแดง ลดจำนวนเชื้อราและการหลุดลอกของหนังศีรษะ ควรใช้ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ ทั้งนี้ ซีลีเนียมซัลไฟด์จะทำปฏิกิริยากับเครื่องเงินและทำให้เครื่องเงินเป็นรอยดำ จึงควรถอดเครื่องประดับเงินออกก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบดังกล่าว
    • น้ำมันดิน (Coal tar) ใช้รักษารังแคและโรคที่หนังศีรษะ เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเซ็บเดิร์ม ช่วยรักษาอาการคัน ระคายเคือง และหนังศีรษะที่แห้งลอกเป็นหย่อม ๆ ควรใช้ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของคุณหมอหรือเภสัชกร

    วิธีดูแลหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี

    วิธีดูแลสุขภาพหนังศีรษะ อาจทำได้ดังนี้

    • สระผมด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ และไม่ควรอาบน้ำนานเกิน 10 นาที
    • ใช้แชมพูที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะ ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอม พาราเบน หรือแอลกอฮอล์ที่อาจระคายเคืองผิวหนัง
    • ใช้ครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์ผมทุกครั้งหลังสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแค เพื่อป้องกันหนังศีรษะและเส้นผมแห้งเกินไป
    • หลังสระผมทุกครั้งควรซับผมอย่างเบามือจนผมแห้ง และหลีกเลี่ยงการเข้านอนโดยที่ผมยังเปียกหรือชื้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อราที่อาจทำให้หนังศีรษะแห้งลอก
    • หลีกเลี่ยงการใช้เล็บหรือของปลายแหลมคมเกาหนังศีรษะแรง ๆ เพราะอาจทำให้หนังศีรษะเป็นแผล เลือดออก ผมร่วง หรือทำให้อาการ หนังศีรษะแห้ง ลอก แย่ลงได้
    • เพิ่มความชื้นในอากาศด้วยเครื่องทำความชื้นในบริเวณที่ทำกิจวัตรประจำวันบ่อย ๆ เช่น โต๊ะทำงาน ห้องนอน เพื่อให้มีความชื้นในอากาศเพียงพอ ลดความเสี่ยงหนังศีรษะแห้ง ลอก
    • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรงๆบนหนังศรีษะบ่อย เช่นการกัดสีผม การย้อม ดัด ยืดผมบ่อย ๆ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงเกศอร ป้องอาณา

    โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 24/04/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา