การจูบ นอกจากจะเป็นการแสดงความรักและช่วยกระชับความสัมพันธ์แล้ว ยังอาจมีประโยชน์ทางสุขภาพในด้านอื่น ๆ เช่น ลดความเครียด เพิ่มภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยทำลายคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก และส่งเสริมสุขภาพจิต ในขณะเดียวกันการจูบกันก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางชนิดได้ ดังนั้นควรศึกษาวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ประโยชน์ของการจูบกัน กับคนรัก
ประโยชน์ของการ จูบกัน กับคนรัก มีดังนี้
- มีสุขภาพจิตที่ดี การจูบอาจกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุข เช่น ออกซิโตซิน (Oxytocin) เซโรโทนิน (Serotonin) โดพามีน (Dopamine) ทำให้ผ่อนคลาย ลดฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น ซึ่งอาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้าได้
- ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักไปในทางที่ดี คู่รักที่แสดงความรักด้วยการจูบกันอาจทำให้เกิดความผูกพันธ์ ความใกล้ชิด ทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การจูบยังกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศอีกด้วย
- เผาผลาญแคลอรี่ การจูบกันแต่ละครั้งอาจช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ 8-16 กิโลแคลอรี่ เนื่องจากขณะที่จูบอาจมีการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อนมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นยิ่งจูบอย่างร้อนแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจให้มีการสูบฉีดเลือดที่ดี ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการปวดหัว และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยบรรเทาอาการแพ้ การจูบกันอาจทำให้ได้รับแบคทีเรียที่ดีที่อยู่ในช่องปากของคู่รัก ทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการลมพิษ และอาการแพ้จากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เช่น เกสรดอกไม้ ลมพิษ ไรฝุ่น และช่วยลดความเครียดที่อาจเป็นสิ่งกระตุ้นทำให้อาการแพ้แย่ลง
- ป้องกันฟันผุ การจูบกันอาจช่วยกระตุ้นให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายมากขึ้น ช่วยในการกลืน และช่วยให้เศษอาหารไม่ติดฟัน ซึ่งอาจช่วยป้องกันฟันผุได้
- ใบหน้ากระชับ การจูบอาจมีความสัมพันธ์กับกล้ามเนื้อใบหน้าประมาณ 2-34 มัด การจูบบ่อย ๆ ทำให้มีการขยับใบหน้าและใช้กล้ามเนื้อในส่วนนี้เป็นประจำ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้ใบหน้ากระชับ ชะลอการเกิดริ้วรอยที่ดูแก่กว่าวัย
5 วิธี จูบกัน ที่อาจช่วยเพิ่มความสุข
สำหรับวิธีจูบที่อาจช่วยเพิ่มความสุขได้มีดังนี้
- ได้รับการยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย การจูบกันให้มีความสุขควรได้รับการยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาจถามความต้องการอีกฝ่าย ที่จะโน้มตัวเข้าและเริ่มจูบแบบอ่อนโยนหรือรุนแรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอารมณ์ที่ต้องการแสดงออก
- จูบโดยใช้ลิ้น เป็นการใช้ลิ้นสอดเข้าไปในปากของอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ก่อนนำไปสู่การจูบอย่างร้อนแรง
- ให้ความสำคัญกับคู่ที่อยู่ตรงหน้า เพื่อสังเกตความพึงพอใจในการจูบของอีกฝ่าย เช่น มีการส่งเสียงครางเบา ๆ วิธีโน้มตัวเข้าหา ในกรณีที่อีกฝ่ายถอยออกไป อาจจะต้องถอยออกมาเพื่อดูว่า คู่รักยังอยากที่จะจูบต่อหรือไม่
- ใช้มือลูบไล้ร่างกายและใบหน้าขณะจูบ เพื่อสร้างความโรแมนติกให้คู่รักและทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะจูบกันอาจลูบไล้ร่างกาย ริมฝีปาก ใบหน้าด้วยความอ่อนโยนหรือรุนแรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของทั้ง 2 ฝ่าย
- กัดริมฝีปากเบา ๆ การกัดริมฝีปากขณะจูบและมองตากันเล็กน้อยอาจทำให้รู้สึกตื่นเต้น และมีความสุขเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจวัดได้จากการตอบสนองของอีกฝ่าย
ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจมาพร้อมกับการจูบ
การจูบกันอาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของแบคทีเรีย ไวรัส จากคนสู่คน ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากภาวะต่าง ๆ ดังนี้
ไข้หวัดและโควิด-19 เกิดจากการติดเชื้อของไวรัสที่ติดต่อได้จากการสัมผัสเชื้อผ่านทางเดินหายใจส่วนบน เช่น การสูดลมหายใจ สัมผัสกับสารคัดหลั่ง ซึ่งสังเกตได้จากอาการไอ มีไข้ หนาวสั่น น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดศีรษะ ไวรัสตับอักเสบบี แม้จะไม่สามารถแพร่กระจายผ่านการไอหรือจาม แต่อาจเกิดการติดเชื้อเมื่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งในร่างกาย เช่น อสุจิ เลือด น้ำลาย ดังนั้นการจูบกันอาจทำให้อีกฝ่ายได้รับเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย อาเจียน ปวดข้อ มีไข้ ปัสสาวะสีเข้ม สีผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือดีซ่าน หูด มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ หรือเป็นแผล ที่อาจเกิดขึ้นได้บนผิวหนังทั่วทั้งร่างกาย เช่น ใบหน้า อวัยวะเพศ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ต่อมน้ำเหลืองโต เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr) บริเวณต่อมน้ำเหลือง อาจส่งผลให้คอบวม มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำมูกไหล เจ็บคอ โรคเริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริมผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับผู้ที่ติดเชื้อ และสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย การใช้สิ่งของร่วมกัน การจูบกัน สัมผัสกับผิวหนัง ส่งผลให้เกิดอาการคันและมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ช่องปาก ฟันผุ การจูบอาจทำให้ได้รับแบคทีเรียชนิดไม่ดี ที่ส่งผลให้เกิดฟันผุได้ เช่น สเตร็พโตคอคคัส มิวแทนส์ (Streptococcus Mutans) พอร์ไฟโรโมแนส จิงจิวาลิส (Porphyromonas Gingivalis) ไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal Disease) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซเรีย เมนิงไจไทดิส (Neisseria Meningitidis) เป็นโรคร้ายแรงที่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากแบคทีเรียนี้อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อบุสมอง ไขสันหลัง หากสังเกตว่ามีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนกะทันหัน ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจทันที วิธีป้องกันการติดเชื้อจากการจูบกัน
วิธีป้องกันการติดเชื้อจากการจูบ อาจทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการจูบหากทราบว่าคู่รักกำลังป่วย หรือเป็นโรคติดต่อ
- ปิดปากขณะไอหรือจาม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของละอองน้ำลายในอากาศ
- รักษาสุขอนามัยช่องปาก ด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
- ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อบางชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบบี อีสุกอีใส การติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย