โรคเบาหวานเกิดจากเซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินที่ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำตาลไปเป็นพลังงานให้กับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย หรือที่เรียกว่าภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) หรืออาจเกิดจากร่างกายมีระดับอินซูลินไม่เพียงพอหรือไม่มีเลย ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นหลังรับประทานอาหาร และร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ หากมีระดับน้ำตาล 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่า มีภาวะก่อนเบาหวาน และหากมีระดับน้ำตาลในเลือด 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป แสดงว่าเป็นโรคเบาหวาน
อาการของโรค ผู้ป่วยอาจมีอาการหิวบ่อย สายตาพร่ามัว ผิวแห้ง ชาตามปลายมือปลายเท้า ถ่ายปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ เป็นต้น
ผลกระทบต่อสุขภาพ เมื่อเป็นโรคเบาหวานนานหลายปี โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเส้นประสาทส่วนปลายที่เกิดจากเบาหวาน (Diabetic peripheral neuropathy) โรคไตเรื้อรัง ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Retinopathy) ภาวะเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อมหรือที่เรียกว่าเบาหวานลงเท้า (Diabetic foot) เป็นต้น โดยภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานอาจทำให้พิการหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคมะเร็งเกิดจากเซลล์ในร่างกายกลายพันธุ์ไปเป็นเนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็ง ก่อนจะแบ่งตัวเรื่อย ๆ และขยายใหญ่ขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย โรคมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากปัจจัยจากพันธุกรรมและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสอย่างไวรัสเอชพีวี (HPV) ไวรัสตับอักเสบได้เช่นกัน
ข้อมูลสถิติทะเบียนมะเร็งประเทศไทยพ.ศ. 2565 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติเปิดเผยว่า โรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทย ได้แก่ โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่/ทวารหนัก และโรคมะเร็งปากมดลูก ตามลำดับ
อาการของโรค คลำพบหรือสังเกตเห็นก้อนเนื้อขึ้นตามร่างกาย น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ มีปัญหาในการขับถ่าย เช่น ขับถ่ายเป็นเลือด มีแผลเรื้อรังที่ไม่หาย เป็นต้น โดยอาการจะแตกต่างไปตามชนิดของมะเร็งที่เป็น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการจนกระทั่งอยู่ในระยะลุกลามแล้ว
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย