ปัญหาใหญ่: การเพิ่มขึ้นของโรคอ้วนในเอเชีย

พื้นที่ต่าง ๆ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อผู้คนเริ่มที่จะกินมากขึ้นและออกกำลังกายน้อยลง จำนวนประชากรที่มีน้ำหนักเกินจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย

เนื่องจากโรคอ้วนเป็นศูนย์กลางของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ดังนั้น เราจึงได้ลองศึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ที่เป็นโรคอ้วนในเอเชีย และจำนวนของผู้ที่กำลังมีความเสี่ยงนี้

down-icon
ปัญหาใหญ่: การเพิ่มขึ้นของโรคอ้วนในเอเชีย

เอเชียกับปัญหาโรคอ้วน

ภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากไปด้วยคนหนุ่มสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา แต่เนื่องจากเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ลักษณะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเหล่านี้เปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มกินอาหารมากขึ้น และออกกำลังกายน้อยลง

สิ่งนี้นำไปสู่ข้อน่ากังวลบางประการ 

โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง ได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในเอเชีย ในขณะเดียวกัน ที่อินเดียก็มีผู้ป่วยโรคเบาหวานมากถึง 77 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับสองรองจากจีน 

ในขณะที่ปัจจัยด้านวิถีชีวิตต่าง ๆ มีส่วนทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โรคอ้วน จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญที่สุด และการมีค่าดัชนีมวลกายสูง (BMI) ก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง รวมไปถึงโรคอื่น ๆ เช่น 

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคเบาหวาน
  • ความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น โรคข้อเสื่อม
  • โรคมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งไต มะเร็งลำไส้ใหญ่

แม้ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีจำนวนผู้ที่มีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนต่ำที่สุดทั่วโลก ในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมาแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผู้ที่มีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

เครื่องคำนวณ BMI ของ Hello Health ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใช้หลายพันรายทั่วทั้งภูมิภาคในช่วง 6 เดือน จากผลการใช้เครื่องคำนวณ BMI พบว่า ประเทศที่มีจำนวนคนที่มีสุขภาพดีที่สุด ได้แก่ เวียดนาม (43.74%), กัมพูชา (43.03%) และไต้หวัน (41.62%)

ผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศ

ผลลัพธ์จากเครื่องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI): เปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนในแต่ละประเทศ

คำนวณจากผู้ใช้เครื่องคำนวณดัชนีมวลมวลกายของ Hello Health ตั้งแต่วันลที่ 30 มกราคม ถึง 29 กรกฏาคม 2021

Thailand
19.76
%
โรคอ้วน 1
9.34
%
โรคอ้วน 2
1.2
%
โรคอ้วน 3
โรคอ้วน 1: ค่าดัชนีมวลกายช่วง 30 - 34.9
โรคอ้วน 2: ค่าดัชนีมวลกายช่วง 35.0 - 39.9
โรคอ้วน 3: ค่าดัชนีมวลกายช่วง >= 40
next
1/8

อย่างไรก็ตาม ประเทศเหล่านี้ก็มีจำนวนผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากที่สุดเช่นกัน เวียดนามมีผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากถึง 17.83% กัมพูชา 17.79% และไต้หวัน 19.23% เมื่อเทียบกับฟิลิปปินส์ 13.71% ซึ่งทุกคนล้วนมีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน 

ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงจำนวนผู้ป่วยโรคอ้วน กลับเป็นคนละเรื่องกับข้อมูลข้างต้น 

อินเดีย และ มาเลเซีย คือสองประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนมากที่สุด โดยจากผลการตอบแบบสำรวจของอินเดียพบผู้ป่วยโรคอ้วนระดับที่ 1 27.19% และโรคอ้วนระดับที่ 2 10.82% สำหรับมาเลเซียพบผู้ป่วยโรคอ้วนระดับที่ 1 23.43% และโรคอ้วนระดับที่ 2 13.47%

ในขณะเดียวกัน อินเดีย และ ฟิลิปปินส์ คือประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคอ้วนระดับรุนแรง (โรคอ้วนระดับที่ 3) มากที่สุด โดยพบจำนวนผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย 40 ขึ้นไปมากถึง 5.35% และ 5.33% ตามลำดับ

ตัวเลขจากข้อมูลของเราสอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลก จากข้อมูลของ องค์การอนามัยโลก เมื่อปี พ.ศ. 2559 พบว่า ผู้ใหญ่ในเอเชียกว่า 1.9 พันล้านคน เป็นผู้ที่มีน้ำหนักเกิน โดยมีผู้ที่เป็นโรคอ้วนมากขึ้น 650 ล้านคน 

ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาภายนอกและข้อมูลเชิงลึกของ Hello Health ดังนี้

  • อินเดีย มีจำนวนผู้มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนสูงสุดในกลุ่มประเทศของ Hello Health 
  • อินโดนีเซีย มีจำนวนผู้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์มากที่สุดในกลุ่มประเทศของ Hello Health
  • เวียดนาม มีจำนวนผู้ที่มีสุขภาพดีมากที่สุดในกลุ่มประเทศของ Hello Health
  • มาเลเซีย มีจำนวนผู้ที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคอาหารทั่วทั้งภูมิภาค เนื่องจากปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารลดลง และมีอาหารสำหรับประชากรมากขึ้น จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของภูมิภาคในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียเฉลี่ยอยู่ที่ 6% นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2000

ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของเอเชียยังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของอาหารในภูมิภาค เนื่องจากอาหารราคาต่ำลงมีจัดจำหน่ายมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “การเปลี่ยนแปลงทางโภชนาการ’ ที่อาหารที่มีแคลอรี่สูงเริ่มเข้ามาแทนที่อาหารแบบเดิม ๆ ทำให้ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนและโรคเรื้อรังอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 

การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิต จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก สภาพแวดล้อมในเมืองยังมีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตแบบนั่งนอนมาก ออกกำลังกายน้อยลง และโรคภัยต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง

การเพิ่มขึ้นของรูปแบบการใช้ชีวิตในเมืองทั่วทั้งภูมิภาคยังส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราผู้ที่มีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในเอเชีย ธนาคารพัฒนาเอเชียรายงานว่า ประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองของเอเชีย ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2533-2558 เพิ่มขึ้นจาก 1ใน 3 เป็นครึ่งหนึ่งของภูมิภาค

การเปลี่ยนจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมการผลิตและบริการในเอเชีย ซึ่งปกติแล้วไม่ต้องการการออกกำลังกายมากนัก ยังอาจนำไปสู่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อประกอบเข้ากับค่านิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านมากกว่าทำอาหารที่บ้าน และการใช้เวลาเดินทางที่นานขึ้น

ในประเทศอย่างอินเดีย การขยายตัวของเมืองทำให้คนหนุ่มสาวหันมารับประทานอาหารขยะที่อุดมด้วยไขมันและมีพลังงานสูงเป็นพิเศษทำให้คนวัยหนุ่มสาวมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนมากขึ้น

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเป็นโรคอ้วน?

โรคอ้วนเป็นตัวกระตุ้นและปัจจัยเสี่ยงสำหรับภาวะร้ายแรงและโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น

โรคไต

โรคไต

โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งสำหรับโรคไตเรื้อรัง ผู้ที่เป็นโรคอ้วนมีแนวโน้มที่จะมีปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคไตเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า โรคเบาหวาน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไต เนื่องจาก 1 ใน 4 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะเป็นโรคไตด้วยเช่นกัน

โรคหัวใจและหลอดเลือด (ภาวะหลอดเลือดแข็ง)

โรคหัวใจและหลอดเลือด (ภาวะหลอดเลือดแข็ง)

โรคอ้วนอาจทำให้แนวโน้มในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือ ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของคราบพลัคหรือไขมันในหลอดเลือด

เมื่อเวลาผ่านไป การสะสมของคราบพลัคอาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือด และอาจทำให้หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งอาจนำไปสู่หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้

โรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง

การศึกษาพบว่าโรคอ้วนอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ข้อมูลสถิติมะเร็งของสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า 55% ของโรคมะเร็งทั้งหมดที่พบในผู้หญิงและ 24% โรคมะเร็งทั้งหมดที่พบในผู้ชายมีความเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน

เซลล์ไขมันส่วนเกินจะเพิ่มการอักเสบและการผลิตเอสโตรเจน รวมไปถึง ฮอร์โมนการเจริญเติบโตอื่น ๆ ซึ่งล้วนอาจส่งผลให้เซลล์มีการแบ่งตัวมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็ง

การมีไขมันส่วนเกินจึงสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดต่าง ๆ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งไต มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับอ่อน

โรคข้อเสื่อม

โรคข้อเสื่อม

การเป็นโรคอ้วนอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคข้อเสื่อม เนื่องจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไปอจาเพิ่มภาระให้กับร่างกาย น้ำหนักตัวที่มากจะเพิ่มแรงกดทับบนเข่า ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้ยากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บที่ข้อต่อ และอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ลำบากขึ้น

คุณมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนหรือไม่? ลองเช็กดูเลย

 

ประเด็นสำคัญ

  • ในขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ป่วยน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นทั่วโลก แต่ก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา
  • ข้อมูลจากการใช้เครื่องมือคำนวณดัชนีมวลกายของ Hello Health พบว่า
    • อินเดีย มีจำนวนผู้มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนสูงสุดในกลุ่มประเทศของ Hello Health
    • อินโดนีเซีย มีจำนวนผู้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์มากที่สุดในกลุ่มประเทศของ Hello Health
    • เวียดนาม มีจำนวนผู้ที่มีสุขภาพดีมากที่สุดในกลุ่มประเทศของ Hello Health
    • มาเลเซีย มีจำนวนผู้ที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • การเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอาหารของภูมิภาค 
  • การเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบการใช้ชีวิตในเมืองทั่วทั้งเอเชียนำไปสู่ ​​“การเปลี่ยนแปลงทางโภชนาการ” คนหันมารับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงมากขึ้น เนื่องจากความนิยมในการรับประทานอาหารนอกบ้าน และการเลือดรับประทานอาหารที่สะดวก หากินง่าย
  • คนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ในเขตตัวเมืองมีแนวโน้มมากกว่าที่จะมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?