backup og meta

ป้องกันปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีชีวิตชีวา

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 31/08/2021

    ป้องกันปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีชีวิตชีวา

    ปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ เนื่องจากสุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น และอาจทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นการดูแลและ ป้องกันปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น

    ปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ

    ปัจจุบันผู้สูงอายุในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า พ.ศ. 2563 มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 12 ล้านคน หรือราว 18% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปี พ.ศ. 2564

    จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นตามมา และปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย ได้แก่ โรคสามัญทั่วไป เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคไต รวมถึงกลุ่มอาการที่เกี่ยวของกับความชราภาพของร่างกาย การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี ด้วยการมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รวมถึงครอบครัวและสังคมที่เข้าใจและให้ความช่วยเหลือจึงเป็นเรื่องสำคัญ

    การดูแลและ ป้องกันปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ

    ปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ อาจเกิดจากกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเนื่องจากความเสื่อมของร่างกายเมื่อชราภาพ หรืออาจเกิดจากผลข้างเคียงจากโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ซึ่งการดูแลและการป้องกันโรคที่ผู้สูงอายุกำลังเผชิญก็แตกต่างกันออกไป ดังนี้

    ปัญหาความสมดุลของร่างกาย มึนงง และวิงเวียนศีรษะ

    ปัญหาความสมดุลของร่างกาย อาการมึนงง และวิงเวียนศีรษะ อาจเกิดจาก โรคทางสมอง โรคข้อเสื่อม กล้ามเนื้ออ่อนแรง ความดันโลหิตต่ำ ยาบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม พื้นที่ลาดเอียงหรือแสงสว่างไม่เพียงพอ ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ โลหิตจาง เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เกิดการหกล้มส่งผลทำให้กระดูกแตกหักได้ อย่างไรก็ตามสามารถดูแลและป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ ดังนี้

  • จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง เช่น เพิ่มไฟให้สว่าง เก็บสิ่งกีดขวางทางเดิน ทำราวจับให้ผู้สูงอายุ
  • ระมัดระวังเมื่อเคลื่อนไหว โดยเฉพาะเมื่อลุกจากการนั่งหรือนอน
  • ใช้ไม้เท้า เพื่อช่วยในการทรงตัว
  • ออกกำลังกาย และขยับร่างกายเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและปรับความสมดุลของร่างกาย ทั้งยังช่วยเพิ่มความกระตือรือร้น ลดความเสี่ยงการหกล้ม
  • หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้ความดันโลหิตตกและง่วงซึม
  • ตรวจมวลกระดูกเป็นประจำเพื่อประเมินความแข็งแรงของกระดูก และหากเป็นโรคกระดูกพรุนจะได้รักษาอย่างทันท่วงที
  • ปัญหาการนอนหลับ

    ผู้สูงอายุมักมีปัญหาการนอนหลับ อาจหลับยากขึ้นหรือตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงการหกล้ม และปัญหาทางอารมณ์ เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงควรดูแลและป้องกัน ดังนี้

    • ปรับพฤติกรรมนอนให้เป็นเวลาเพื่อให้เกิดความเคยชิน และควรนอนในเวลา 3-4 ทุ่ม และตื่นตี 4-5
    • ไม่ควรนอนกลางวันเป็นเวลานาน ๆ แต่หากเพลีย สามารถงีบได้แต่ไม่ควรงีบหลังบ่าย 3
    • จัดบรรยากาศภายห้องนอนให้หลับสบายขึ้น เช่น ใช้ผ้าม่านปิดแสงจากภายนอก ปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ สีสันของห้องไม่ฉูดฉาด
    • หลังอาหารเย็นพยายามดื่มน้ำให้น้อยลง เพื่อลดการปัสสาวะตอนกลางคืน
    • หากมีอาการนอนไม่หลับอย่างรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และหากต้องใช้ยานอนหลับควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เสมอ

    ปัญหาการขับถ่าย

    ผู้สูงอายุหลายคนอาจมีปัญหาเรื่องการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม สามารถ ดูแลและป้องกัน ได้ดังนี้

    • ฝึกขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานวันละ 50-100 ครั้ง
    • ฝึกปัสสาวะเป็นเวลา และค่อย ๆ ปัสสาวะช้า ๆ เพื่อฝึกกระเพาะปัสสาวะให้สามารถกลั้นได้นานขึ้น
    • ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
    • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการรุนแรงขึ้น และเพื่อตรวจหาโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ

    ปัญหาการรับประทานอาหาร

    ปัญหาการรับประทานอาหารในผู้สูงอายุอาจเกิดจาก ปัญหาการกลืน เบื่ออาหาร ปัญหาสุขภาพฟัน เป็นต้น ซึ่งมีวิธีการ ดูแลและป้องกัน ดังนี้

    • รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย หลากหลาย และให้พลังงานสูง
    • รับประทานอาหารร่วมกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง
    • ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ และปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานอาหาร

    ปัญหาการได้ยินและการมองเห็น

    ความสามารถในการมองเห็นและการได้ยินในผู้สูงอายุมักลดลง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ จึงควร ดูแลและป้องกัน ดังนี้

    • ผู้สูงอายุควรได้รับการตรวจตาอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง หากพบปัญหาก็สามารถรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
    • ตรวจสุขภาพการได้ยินเป็นประจำ หากพบปัญหาสามารถฟื้นฟูการได้ยินได้ด้วยเครื่องช่วยฟัง
    • ลูกหลานควรดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดและเข้าใจ ให้ความช่วยเหลืออย่างใจเย็นเสมอ

    ภาวะสมองเสื่อม

    ผู้สูงอายุอาจมีอาการหลงลืมง่ายหรือคิดช้า มักเกิดจากโรคอัลไซเมอร์ จึงควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุในเรื่องความจำและความคิดอยู่เสมอ เพื่อชะลอความรุนแรงของโรค อาจหากิจกรรมกระตุ้นสมองให้ผู้สูงอายุทำ เช่น ให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในครอบครัว ช่วยกันทำงานบ้าน อ่านหนังสือ ออกกำลังกายร่วมกัน

    ภาวะกระดูกพรุน

    ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนและผู้ชายที่มีอายุ 70 ปี ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่แสดงอาการ สามารถ ดูแลและป้องกัน ภาวะกระดูกพรุนได้ ดังนี้

    • รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมอย่างน้อย 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
    • ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก เช่น วิ่ง เดิน
    • เข้าตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูกและตรวจระดับวิตามินดีในเลือด โดยเฉพาะในผู้หญิงที่อายุมากกว่า 55 ปี และผู้ชายที่อายุมากกว่า 70 ปี
    • หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกพรุน ควรเข้ารับการรักษาโดยทันทีเพื่อลดความเสี่ยงกระดูกแตกหัก

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    เนตรนภา ปะวะคัง


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 31/08/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา